หน้าฝนทุกปีต้องมีผวาและต้องคอย ลุ้นว่าน้ำฝนจะรั่วมาจากตรงไหนบ้าง
เอาเป็นว่าถ้าอยากนอนสบาย ๆ เรามาลงมือซ่อมเพดานกันเถอะ
ก่อนที่น้ำจะท่วมทั้งในและนอกบ้าน
ใครล่ะจะไม่ชอบอยู่บ้านอากาศเย็น ๆ สบาย ๆ ตอนฝนตก แต่เจ้าน้ำที่หยดติ๋ง ๆ ลงมาจากรูรั่วบนเพดานนี่สิ ที่ทำให้หลายคนอารมณ์เสียจนแทบไม่อยากให้ถึงหน้าฝนเลยจริง ๆ เพราะนอกจากจะต้องวิ่งวุ่นหากระบะมารองน้ำ ไหนจะต้องเอาผ้ามาเช็ดแอ่งน้ำย่อม ๆ กลางบ้านแล้วเนี่ย ก็ต้องมาลุ้นต่ออีกว่าจะเกิดจุดด่างดำของเชื้อราบนฝ้าเพดานหรือเปล่า หากไม่อยากให้ปัญหาเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก รีบลงมือซ่อมรอยรั่วเหล่านั้นกันเถอะพวกเรา !
1. รีบย้ายสิ่งของโดยพลัน
เคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากบริเวณที่มีน้ำหยด เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหาย หากเป็นของหนักไม่สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย เช่น โซฟา ตู้เก็บของ หรือชั้นวางของ ให้คลุมทับด้วยพลาสติกผืนใหญ่เอาไว้ ก่อนที่ความชื้นจะพาเชื้อราเข้ามา และทำให้เฟอร์นิเจอร์สวย ๆ ของคุณผุพัง
2. ออกสำรวจรูเจ้าปัญหา
หลังจากนั้นก็มองหารอยรั่ว โดยสังเกตจากจุดแสงเล็ก ๆ บนพื้นตอนแดดออก ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณรู้ตำแหน่งที่ชัดเจนมากกว่าดูจากตำแหน่งน้ำหยด เพราะจุดที่น้ำฝนหยดลงมา อาจเป็นน้ำที่แทรกซึมมาตามรอยแตกบนผนังก็ได้
3. เช็ครอยรั่วภายใน
ที่จำเป็นจะต้องควรตรวจสอบรอยรั่วในบ้านซ้ำอีกครั้ง ก็เพื่อเช็คให้มั่นใจว่ารอยน้ำเหล่าไม่ได้เกิดจากการอาบน้ำ ล้างมือ หรือทำธุระส่วนตัวอื่น ๆ รวมไปถึงรอยรั่วบนท่อประปาภายในบ้าน และจะได้แก้ปัญหาให้ถูกจุดยังไงล่ะ
4. โทรเรียกช่าง
หากเจอปัญหาหลังการตรวจสอบ ควรจะโทรศัพท์เรียกช่างสักนิด ให้เข้ามาแก้ไขและอธิบายว่าพวกเขาต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งบางครั้งก็อาจจำเป็นจะต้องถอดหลังคาบางส่วนออก เพื่อหาต้นตอของรอยรั่วด้วย
5. ลงมือซ่อมทันที
หากตอนนี้รู้แล้วว่ารอยรั่วอยู่ตรงไหน ควรจะลงมือซ่อมแซมทันที อย่าปล่อยปัญหาไว้นานไม่อย่างนั้นรอยรั่วเล็ก ๆ อาจเกิดปัญหาใหญ่ เช่น กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เชื้อรา หรือเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ชอบอาศัยอยู่ตามมุมชื้นแฉะ
6. เปลี่ยนรางน้ำ
แต่หากเป็นเพราะรางน้ำตะเข้ผุกร่อน ควรเปลี่ยนรางน้ำใหม่ที่มีปีกกว้างและลึกมากกว่าเดิมก็ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับน้ำ ถ้าเกิดจากแผ่นกระเบื้องให้อุดรอยรั่วเหล่านั้นด้วยวัสดุยาแนวที่มีความ ยืดหยุ่นสูง หรือกาวซีเมนต์ แต่ถ้าหากร้อยร้าวค่อนข้างมากควรเปลี่ยนแผ่นใหม่ทันที สำหรับในส่วนของอุปกรณ์ยึดหลังคา อย่างเช่น ตะปู ตะขอ หรือแหวนยางสามารถแก้ปัญหาได้ โดยการนำซิลิโคนอุดรอยรั่วเอาไว้ แต่หากน้ำฝนรั่วบริเวณปูนปั้นให้ปิดรอยแตกด้วยแผ่นปิดรอยต่อที่มีส่วนผสมของ ยางมะตอยเสริมใยเหล็ก และกาวปิด คราวนี้ปัญหาที่เคยกวนใจก็หายไปแล้วล่ะ
เรื่องเพดานรั่วคงเป็นปัญหากวนใจใครหลายคนมานาน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนแบบนี้ เพราะแทนที่จะได้นอนพักผ่อนอย่างสบายใจ กลับต้องคอยระวังเรื่องน้ำรั่ว ดีไม่ดีอาจจะทำให้บ้านและของใช้เสียหายอีกด้วย รู้แบบนี้รีบลงมือซ่อมแซมตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า เพราะไม่เพียงแต่จะนอนหลับโดยไม่ต้องกังวลแล้ว ยังไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องนำไปใช้ซ่อมแซมบ้านอีกด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ehow.com
ใครล่ะจะไม่ชอบอยู่บ้านอากาศเย็น ๆ สบาย ๆ ตอนฝนตก แต่เจ้าน้ำที่หยดติ๋ง ๆ ลงมาจากรูรั่วบนเพดานนี่สิ ที่ทำให้หลายคนอารมณ์เสียจนแทบไม่อยากให้ถึงหน้าฝนเลยจริง ๆ เพราะนอกจากจะต้องวิ่งวุ่นหากระบะมารองน้ำ ไหนจะต้องเอาผ้ามาเช็ดแอ่งน้ำย่อม ๆ กลางบ้านแล้วเนี่ย ก็ต้องมาลุ้นต่ออีกว่าจะเกิดจุดด่างดำของเชื้อราบนฝ้าเพดานหรือเปล่า หากไม่อยากให้ปัญหาเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก รีบลงมือซ่อมรอยรั่วเหล่านั้นกันเถอะพวกเรา !
1. รีบย้ายสิ่งของโดยพลัน
เคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากบริเวณที่มีน้ำหยด เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหาย หากเป็นของหนักไม่สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย เช่น โซฟา ตู้เก็บของ หรือชั้นวางของ ให้คลุมทับด้วยพลาสติกผืนใหญ่เอาไว้ ก่อนที่ความชื้นจะพาเชื้อราเข้ามา และทำให้เฟอร์นิเจอร์สวย ๆ ของคุณผุพัง
2. ออกสำรวจรูเจ้าปัญหา
หลังจากนั้นก็มองหารอยรั่ว โดยสังเกตจากจุดแสงเล็ก ๆ บนพื้นตอนแดดออก ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณรู้ตำแหน่งที่ชัดเจนมากกว่าดูจากตำแหน่งน้ำหยด เพราะจุดที่น้ำฝนหยดลงมา อาจเป็นน้ำที่แทรกซึมมาตามรอยแตกบนผนังก็ได้
3. เช็ครอยรั่วภายใน
ที่จำเป็นจะต้องควรตรวจสอบรอยรั่วในบ้านซ้ำอีกครั้ง ก็เพื่อเช็คให้มั่นใจว่ารอยน้ำเหล่าไม่ได้เกิดจากการอาบน้ำ ล้างมือ หรือทำธุระส่วนตัวอื่น ๆ รวมไปถึงรอยรั่วบนท่อประปาภายในบ้าน และจะได้แก้ปัญหาให้ถูกจุดยังไงล่ะ
4. โทรเรียกช่าง
หากเจอปัญหาหลังการตรวจสอบ ควรจะโทรศัพท์เรียกช่างสักนิด ให้เข้ามาแก้ไขและอธิบายว่าพวกเขาต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งบางครั้งก็อาจจำเป็นจะต้องถอดหลังคาบางส่วนออก เพื่อหาต้นตอของรอยรั่วด้วย
5. ลงมือซ่อมทันที
หากตอนนี้รู้แล้วว่ารอยรั่วอยู่ตรงไหน ควรจะลงมือซ่อมแซมทันที อย่าปล่อยปัญหาไว้นานไม่อย่างนั้นรอยรั่วเล็ก ๆ อาจเกิดปัญหาใหญ่ เช่น กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เชื้อรา หรือเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ชอบอาศัยอยู่ตามมุมชื้นแฉะ
6. เปลี่ยนรางน้ำ
แต่หากเป็นเพราะรางน้ำตะเข้ผุกร่อน ควรเปลี่ยนรางน้ำใหม่ที่มีปีกกว้างและลึกมากกว่าเดิมก็ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับน้ำ ถ้าเกิดจากแผ่นกระเบื้องให้อุดรอยรั่วเหล่านั้นด้วยวัสดุยาแนวที่มีความ ยืดหยุ่นสูง หรือกาวซีเมนต์ แต่ถ้าหากร้อยร้าวค่อนข้างมากควรเปลี่ยนแผ่นใหม่ทันที สำหรับในส่วนของอุปกรณ์ยึดหลังคา อย่างเช่น ตะปู ตะขอ หรือแหวนยางสามารถแก้ปัญหาได้ โดยการนำซิลิโคนอุดรอยรั่วเอาไว้ แต่หากน้ำฝนรั่วบริเวณปูนปั้นให้ปิดรอยแตกด้วยแผ่นปิดรอยต่อที่มีส่วนผสมของ ยางมะตอยเสริมใยเหล็ก และกาวปิด คราวนี้ปัญหาที่เคยกวนใจก็หายไปแล้วล่ะ
เรื่องเพดานรั่วคงเป็นปัญหากวนใจใครหลายคนมานาน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนแบบนี้ เพราะแทนที่จะได้นอนพักผ่อนอย่างสบายใจ กลับต้องคอยระวังเรื่องน้ำรั่ว ดีไม่ดีอาจจะทำให้บ้านและของใช้เสียหายอีกด้วย รู้แบบนี้รีบลงมือซ่อมแซมตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า เพราะไม่เพียงแต่จะนอนหลับโดยไม่ต้องกังวลแล้ว ยังไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องนำไปใช้ซ่อมแซมบ้านอีกด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ehow.com
http://home.kapook.com/view123173.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น