วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

8 ทางลัดกำจัดรอยยับบนเสื้อผ้า โดยไม่ใช้เตารีด !


         ทางลัดการกำจัดรอยยับบนเสื้อผ้า โดยไม่ต้องใช้เตารีด สำหรับคนที่ไม่ชอบรีดผ้าหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน มาดูกันว่ามีวิธีใดบ้างที่สามารถทำให้เสื้อผ้าเรียบได้ โดยไม่ต้องใช้เตารีด

          สำหรับคนที่ไม่ชอบรีดผ้า หรือมีเหตุจำเป็นต้องใส่เสื้อแต่ไม่มีเตารีด วันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้รวบรวมทางลัดกำจัดรอยยับบนเสื้อผ้าโดยไม่ต้องใช้เตารีดมาบอกต่อแล้วค่ะ วิธีการกำจัดรอยยับแบบง่าย ๆ ดูไว้ใช้ตอนเดินทางก็ได้ แล้วจะรู้ว่าไม่จำเป็นต้องมีเตารีดก็สามารถทำให้ผ้าเรียบได้เหมือนกัน อยากรู้ว่าทำอย่างไรบ้างก็ตามไปชมพร้อม ๆ กันเลย

1. ทับด้วยผ้าเปียกยามฉุกเฉิน

          วิธีนี้สามารถแก้ไขได้เฉพาะสถานการณ์ที่เหมาะสมเท่านั้นนะคะ ให้นำผ้าขนหนูหรือกระดาษทิชชูอย่างหนาไปชุบน้ำ แล้วบิดหมาด ๆ ทาบลงไปบนรอยยับของเสื้อผ้าที่วางอยู่บนพื้นราบ ใช้มือกดเบา ๆ บริเวณรอยยับ แล้วผึ่งให้แห้งก่อนใส่

2. ไดร์เป่าผมคลายรอยยับ

          ไม่มีเตารีดก็ใช้ไดร์เป่าผมแทนได้ โดยนำเสื้อผ้าที่มีรอยยับไปแขวน แล้วจัดทรงให้เรียบร้อย จากนั้นนำไดร์เป่าผมมาเป่าบริเวณที่มีรอยยับ เว้นระยะห่างระหว่างไดร์เป่าผมกับเสื้อผ้าสักประมาณ 2-3 นิ้ว แล้วก็เป่าจนกว่ารอยยับจะหายไป

3. อบไอน้ำจากฝักบัว

          เชื่อหรือไม่ว่าแค่แขวนเสื้อผ้าในห้องน้ำก็ทำให้ผ้าเรียบได้ ด้วยการนำเสื้อผ้าที่มีรอยยับไปแขวนที่ราวม่านอาบน้ำ แล้วเปิดน้ำอุ่นที่ฝักบัวทิ้งไว้ ปิดประตูห้องน้ำและช่องระบายอากาศประมาณ 10-15 นาที ไอจากน้ำอุ่นจะช่วยคลายรอยยับบนเสื้อผ้าได้ แนะนำให้ใช้วิธีนี้เมื่อยามฉุกเฉินจะดีกว่านะคะ เพราะไม่อย่างนั้นจะเปลืองค่าน้ำเอาได้ หรือรองน้ำใส่ถังรองเก็บไว้ใช้ในคราวต่อไปก็ได้ค่ะ

4. พ่นสเปรย์ผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม

          ถ้ามีรอยยับแค่ไม่กี่จุดก็ไม่จำเป็นต้องรีดให้เปลืองแรง แค่ผสมน้ำเปล่ากับน้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณที่เท่า ๆ  กัน เทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นนำเสื้อผ้าที่มีรอยยับมาแขวนไว้ เล็งหัวฉีดไปที่รอยยับ โดยเว้นระยะห่างประมาณ 12 นิ้ว แล้วฉีดพ่นสเปรย์ไปบนรอยยับเพียงเบา ๆ บาง ๆ ก็พอค่ะ ทิ้งไว้ให้แห้ง ผ้าก็จะกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิมค่ะ

5. อบไอน้ำจากกาต้มน้ำ

          อีกหนึ่งวิธีในการลบรอยยับโดยไม่ต้องใช้เตารีดก็คือ นำเสื้อผ้าไปอังไว้ที่รูพ่นไอน้ำของกาน้ำ เว้นระยะห่างสักประมาณ 12 นิ้ว รอยยับก็จะค่อย ๆ หายไป แล้วเสื้อผ้าก็จะกลับมาเรียบเหมือนเดิม

6. ใช้เครื่องอบผ้าช่วย

          บ้านไหนมีเครื่องอบผ้าอยู่ถือว่าโชคดีเลย เพราะแค่นำเสื้อผ้าที่มีรอยยับเข้าไปอบในเครื่องอบแห้งพร้อมกับผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ สักผืน แล้วเปิดเครื่องให้ทำงานทิ้งไว้ด้วยระดับความร้อนต่ำ ประมาณ 5-10 นาที เครื่องก็จะจัดการกำจัดความเปียกชื้นให้หายไปพร้อมกับรอยยับบนเสื้อผ้า ที่สำคัญเมื่อเครื่องอบผ้าเสร็จแล้ว ให้รีบนำผ้าออกมาแขวนเลยทันที

7. ไม่ปั่นแห้งหลังซัก

          วิธีที่ง่ายที่สุดแต่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย หลังซักเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ให้นำเสื้อผ้าเหล่านั้นไปแขวน จัดทรงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนนำไปตากแดด โดยไม่ต้องปั่นแห้งเพราะจะเกิดรอยยับ ซึ่งจะเกิดรอยยับน้อยจนอาจไม่ต้องรีดเลยก็ได้

8. เติมน้ำส้มสายชูตอนซัก

          นอกจากจะช่วยทำความสะอาดผ้าได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว น้ำส้มสายชูยังทำให้ผ้าเรียบไร้รอยยับได้อีกด้วย เพียงแค่เทน้ำส้มสายชูลงไปในเครื่องซักผ้าประมาณ 1 ถ้วยตวง ในระหว่างที่เครื่องกำลังทำงาน จะทำให้เสื้อผ้าไม่ยับจนเกินไป เผลอ ๆ ไม่ต้องรีดซ้ำเลยก็ได้

          เห็นไหมว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้เตารีดเพื่อกำจัดรอยยับบนเสื้อผ้าเสมอไป เพราะวิธีทางลัดเหล่านี้ก็สามารถทำให้เสื้อผ้ากลับมาเรียบและอยู่ในสภาพพร้อมสวมใส่ได้เหมือนกัน หากเกิดเหตุเร่งรีบหรือมีปัญหากับเตารีดก็ลองนำวิธีดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปลองใช้กันดูนะคะ
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก whowhatwear, Racked และ Wikihow

http://home.kapook.com/view162928.html
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/explore/hipster-outfits-winter/

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559

5 วิธีสะเดาะลูกบิดพัง ไว้เปิดประตูเอาตัวรอดยามฉุกเฉิน

วิธีสะเดาะลูกปิดประตูด้วยอุปกรณ์ใกล้ตัว เปิดประตูล็อกยามฉุกเฉิน เมื่อลืมกุญแจหรือประตูล็อกเองเนื่องจากใช้งานมานาน แต่ไม่สามรถเปิดได้ วันนี้มีวิธีเอาตัวรอดมาบอกแล้ว


          ปัญหาเกี่ยวกับประตูบ้านมีให้เห็นกันบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลืมกุญแจ ประตูล็อกเอง หรือลูกบิดล็อกตาย เนื่องจากผ่านการใช้งานมานาน แน่นอนว่าหลายคนคงจะมีกุญแจสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินกันอยู่แล้ว แต่สำหรับกรณีที่ไม่มีกุญแจ สามารถเปิดประตูได้เหมือนกัน เพียงแค่ทำให้สลักลูกบิดหลุดออกจากวงกบประตู ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีด้วยของใกล้ตัวกับขั้นตอนเหล่านี้


1. พับบัตรเครดิตขึ้น แล้วสอดส่วนที่พับตั้งขึ้นเข้าไปในร่องระหว่างประตูกับลูกบิดให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามสอดบัตรให้เข้าไปในช่องระหว่างสลักลูกบิดและวงกบประตูแล้วรูดบัตรลงให้สลักหลุดออกมา 


ภาพจาก Greycatshow
  
2. เสียบไขควงขนาดเล็กเข้ากับตรงกลางของรูเสียบกุญแจของลูกบิดด้านนอก ดันไขควงเข้าไปจนสุด จากนั้นใช้คีมหนีบไขควงให้แน่นแล้วหมุน ทิศทางการหมุนขึ้นหรือหมุนลงจะขึ้นอยู่กับชนิดของลูกบิด ทั้งนี้ให้หมุนไปในทิศทางเดียวกันกับการใช้กุญแจเปิดตามปกติ  


ภาพจาก Mr. Locksmith


   


3.  สำหรับลูกบิดประตูห้องน้ำหรือห้องนอน สามารถเปิดได้ง่าย ๆ เนื่องจากเป็นลูกบิดที่มีไว้ป้องกันความเป็นส่วนตัวเท่านั้น ระบบล็อกจึงไม่ยุ่งยาก ให้ใช้เหรียญกดเข้ากับรูกลางลูกบิดแล้วหมุน อีกวิธีหนึ่งคือใช้ปลายกรรไกรเสียบกับรูตรงกลางแล้วหมุนเปิด


ภาพจาก Stuff To Know


4.  ดัดลวดหนีบกระดาษให้ตรง ตัดส่วนปลายให้งอตั้งฉาก เสียบประแจหกเหลี่ยมขนาดเล็กที่สุดเข้าไปในรูกุญแจแล้วหมุนค้างไว้ จากนั้นแหย่คลิปหนีบกระดาษเข้าไปในด้านบนของรูกุญแจ แหย่เข้า-ออกจนกระทั่งสลักหลุด จากนั้นหมุนประแจลงมาให้สุดแล้วดันประตูให้เปิดออก


ภาพจาก How to Pick a Lock




5.  ใช้ไขควงงัดพานพับ โดยให้ใช้ไขควงปากแบนเสียบเข้าไปในระหว่างแกนพานพับและข้อพับด้านบน ใช้ค้อนตีตะปูตอกไขควงเข้าไปให้แน่น จากนั้นแงะแกนบานพับขึ้นจนกระทั่งแกนบานพับหลุดออกมา สำหรับวิธีนี้ให้ไช้เมื่อสลักล็อกตาย ไม่สามารถเปิดได้



ภาพจาก expertvillage

           

สำหรับคนที่อยากจะเปลี่ยนลูกบิดประตูใหม่ สามารถซ่อมลูกบิดเองได้ง่าย ๆ ตามวิธีนี้เลย ติดตามวิธีซ่อมและเปลี่ยนลูกบิดประตูง่าย ๆ ไม่ใช่ช่างก็ทำได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก wikihow, Greycatshow, Mr. Locksmith, Stuff To Know, How to Pick a Lock และ expertvillage
http://home.kapook.com/view162995.html

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

จอดรถแล้วเปิด (ฝา) กระโปรงทิ้งไว้.. ดีจริงหรือ



หลายคนที่เดินทางไกลบ่อย ๆ คงจะเคยพบเคยเห็นรถบางคันจอดรถแวะปั๊มน้ำมัน พร้อมเปิดฝากระโปรงหน้าทิ้งไว้เพื่อระบายความร้อน.. แต่แท้จริงแล้วการเปิดฝากระโปรงหลังดับเครื่องยนต์มีความจำเป็นหรือไม่ ? เชื่อว่าหลายคนคงสงสัย วันนี้สำนักข่าว Thai quote มีคำตอบจากผู้รู้มาฝากกัน


การเปิดฝากระโปรงหน้ารถหลังจากดับเครื่องยนต์จะช่วยระบายความร้อนได้จริง เนื่องจากความร้อนจะลอยตัวขึ้นที่สูงเสมอ ดังนั้นการเปิดฝากระโปรงหน้ารถจะเป็นการช่วยให้ความร้อนถูกระบายออกไปได้เป็นอย่างดี


แต่อย่างไรก็ดีการช่วยระบายความร้อนด้วยการเปิดฝากระโปรงหน้านั้น อาจไม่มีประโยชน์กับเครื่องยนต์มากนัก เนื่องจากเครื่องยนต์มีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการขับขี่ทางไกลที่มีมวลอากาศไหลเวียนเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ตลอดเวลา


การเปิดฝากระโปรงหน้าหลังดับเครื่องยนต์นั้น แม้ว่าจะไม่มีผลโดยตรงต่อการระบายความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ แต่ก็จะช่วยยืดอายุชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกขึ้นได้ รวมถึงช่วยรักษาสภาพฉนวนกันความร้อนใต้ฝากระโปรงให้ดูสภาพดียาวนานขึ้นอีกหลายปี


ดังนั้น ไม่ว่าจะเปิดฝากระโปรงหน้าหรือไม่นั้น ไม่มีผลอย่างเป็นนัยยะสำคัญต่อเครื่องยนต์ แต่หากตั้งใจจะเปิดทิ้งไว้จริงๆ ก็ไม่ควรปล่อยรทิ้งไว้โดยไม่เฝ้าระวัง เพราะอาจมีผู้ไม่หวังดีทำมิดีมิร้ายกับรถคุณก็เป็นได้


ขอบคุณที่มา: http://thaiquote.org/people-details.php?code=2979

โพสท์โดย: SpiderMeaw


http://board.postjung.com/1004583.html

เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/explore/fast-cars/

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

20 ประโยชน์เจ๋ง ๆ ของหนังยางที่ทำได้มากกว่ารัดถุง !

         หลายหลากวิธีการใช้ประโยชน์ของหนังยางให้นอกเหนือออกไปจากการรัดผม หรือถุง เพราะหนังยางสามารถแก้ปัญหาร้อยแปดพันเก้าในบ้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ !


          รู้หรือไหมว่าหนังยางไม่ธรรมดาอย่างที่เราคิดนะจะบอกให้ คนส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับการใช้งานหนังยางในแบบเดิมที่ทำตามกันมาเช่น รัดผม หรือรัดถุงแกงกันหกเท่านั้นเอง แต่ต่อไปนี้กระปุกดอทคอมจะมากระซิบดัง ๆ ให้ได้รู้กันไปเลยว่า หนังยาง มีประโยชน์มากกว่าที่คิดเอาไว้อีกเพียบ บางทีอ่านแล้วอาจจะอยากซื้อหนังยางมาพกไว้เป็นอาวุธคู่กายเลยก็ได้นะ รับรองเจ๋งจริงไม่ได้โม้ !


1. รัดเขียงกันเอียงไหล

          แม่ครัวมือโปรอาจจะต้องมาเสียท่าให้กับเขียงหั่นอาหาร ที่หั่นอยู่ดี ๆ ก็เลื่อนไปเลื่อนมาแล้วก็โดนมีดบาดเข้าจนได้ ให้ใช้หนังยางวงใหญ่ ๆ มารัดเขียงเอาไว้ด้านใดด้านหนึ่งก็ช่วยให้เขียงพลาสติกไม่เลื่อนไหลจนน่า รำคาญใจแล้ว

ภาพจาก Treehugger

2. ล็อกสายชาร์จให้อยู่นิ่ง

          ไอทีลิซึ่มทั้งหลาย คงไม่ต้องเปิดกระเป๋าควักเงินซื้ออุปกรณ์ล็อกสายชาร์จกันแล้วล่ะ เพราะแค่เอาหนังยางที่ทนทานต่อความร้อนมารัดไว้ เท่านี้ก็อยู่นิ่งไม่ซิ่งไหลลื่นไปไหนแล้ว

ภาพจาก Dose

3.รองไขควงก่อนถอนนอต

          เมื่อถึงยามจำเป็นที่จะต้องไขนอตออกจากไม้ แรงอันบอบบางของสาว ๆ คงไม่สามารถต้านความแน่นของนอตได้ ทำให้ไขควงเลื่อนไปเลื่อนมา เผลอ ๆ อาจจะพลิกมาโดนมือเราด้วยซ้ำ ให้เอาหนังรัดผมชนิดแบนมารองตรงกลางระหว่างไขควงกับนอตแล้วไขเพื่อกันลื่น แค่นี้ก็ง่ายแล้ว

ภาพจาก Dose 

4. เปลี่ยนแก้วเก่าให้จัดจ้าน

          จัดงานปาร์ตี้ทั้งทีแต่แก้วยังดูเก่า ๆ อยู่เลย ถ้าไม่ยากจะซื้อแก้วใหม่ให้เปลืองเงินอีก ให้หาหนังยางที่มีสีสันสดใสสวยงามหลากหลายรูปแบบ มารัดรอบรัดแก้วจัดเรียงให้สวยงามตามใจชอบแค่นี้ก็เก๋แล้ว แถมหนังยางบนแก้วยังเป็นตัววัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่จะเทลงไปได้เป็นอย่างดี

ภาพจาก shewearsmanyhats

5. คงความสวยงามให้เสื้อผ้าที่แขวน

          การจับเสื้อผ้าคอกว้างใส่ไม้แขวน มันไม่ใช่งานที่ง่ายเลยเพราะแขวนกี่ทีไหล่เสื้อก็ลื่นหลุดออกจากไม้แขวนอยู่ เรื่อย เสื้อสวย ๆ ที่รีดไว้ก็ยับยู่ยี่กองอยู่กับพื้นต่อหน้าต่อตา ให้หาหนังยางมารัดไว้ที่ด้านข้างหรือไหล่ไม้แขวนเสื้อก่อนเอาเสื้อใส่ไม้ แขวนแล้วเสื้อก็จะอยู่คงที่แน่นอน

ภาพจาก Dose 

6. เพิ่มความจุในกระเป๋าเดินทาง

          ได้เวลาแพ็กกระเป๋าเดินทางกันแล้ว ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งทริคเด็ดที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในกระเป๋าเดินทางได้ง่าย ๆ โดยการม้วนเสื้อผ้าแต่ละตัว แล้วรัดหนังยางไว้หัวท้ายก่อนจะนำไปใส่ในกระเป๋า แค่นี้ก็เหลือที่อีกเพียบ

ภาพจาก imgur 

7. ฝาขวดแน่นไปก็รัดไว้แล้วเปิดออก

          ความตั้งใจในการกินขนมปังทาแยมต้องพังทลาย เพราะเจ้าขวดแยมที่ฝาปิดแน่นซะเกินจนเปิดไม่ออกนั้นทำเอาหงุดหงิดไปเลยที เดียว วิธีแก้คือรีบไปหาหนังยางมารอยฝาขวดแล้วบิดเปิดออกได้อย่างง่าย ๆ ไปเลย

ภาพจาก Dose 

8. กันประตูล็อกสนิท

          คุณพ่อ-คุณแม่ท่านใด กลัวว่าลูกน้อยจะแอบปิดประตูห้องแล้วล็อกประตูอยู่ในห้องคนเดียว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุก่อนเกิด ให้เอาหนังยางมารัดคล้องกลอนด้านในและด้านนอกพาดผ่านตัวล็อกตรงกลาง เพื่อไม่ให้ลงกลอนได้อย่างสนิท จะได้อุ่นใจหายห่วง

ภาพจาก Dose

9. รัดเชือกถุงชาให้อยุ่กับที่

          จะชงชาเก๋ ๆ นั่งดื่มในวันหยุดสุดสบาย แต่ก็พลาดจนได้ถุงชาในแก้วลื่นตกลงไปอยู่ก้นแก้ว แถมยังดึงเชือกที่ใช้จับถุงชาไหลลงไปด้วย ไม่ยากเลยแค่เอาหนังยางรัดรอบแก้วพร้อมกับรัดเชือกถุงชาไปด้วย แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวจะต้องล้วงแก้วหยิบถุงชาแล้ว

ภาพจาก Dose 

10. ปาดสีก่อนปาดผนัง

          ปัญหาการสีผนังไม่เรียบเนียนนั้นเกิดจากสีส่วนเกินที่ติดมาบนหัวแปรง ทำให้ผนังห้องเต็มไปด้วยสีส่วนเกินที่ปูดขึ้นมาบ้างเรียบบ้าง แนะนำให้ใช้หนังอันใหญ่ ๆ มารัดกระป๋องให้พาดผ่านปากกระป๋อง เพื่อปาดสีออกจากแปรง

ภาพจาก rhodylife 

11. ประหยัดง่าย ๆ แค่รัดไว้ที่ก้านขวด

          ขวดน้ำยาแบบปั๊มในบ้านไม่ค่อยเข้าทางการประหยัดซักเท่าไร เพราะสมาชิกบางคนหลงลืมกดกันใช้น้ำยากันเพลิน จนหมดแล้วหมดอีก งั้นรีบไปหาหนังยางมารัดก้านปั๊มเอาไว้เพื่อจำกัดปริมาณการใช้น้ำยาในแต่ละ ครั้ง

ภาพจาก flickr

12. ไม่ง้อหรอกขาตั้งกล้อง

          คนรุ่นใหม่ก็ต้องมีเทคโนโลยีไว้อำนวยกิจกรรมชิล ๆ ในแต่ละวันอย่างการถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์ จะให้รูปสวยดั่งใจแต่ก็ไม่อยากซื้อขาตั้งกล้องมาใช้ ก็แค่รัดหนังยางไว้ที่คอขวดหรือกระป๋องให้เข้ากับโทรศัพท์มือถือเท่านี้มี รูปสวย ๆ ไว้อวดเพื่อนได้แล้วล่ะ

ภาพจาก fivegallonideas 

13. กระเป๋าสตางค์พกสะดวก

          เบื่อที่จะพกกระเป๋าสตางค์ใบใหญ่ให้เกะกะ กว่าจะหยิบก็ยากเย็นซะเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้นจับบัตรและธนบัตรทั้งหมดมารัดไว้ด้วยหนังยาง จะเสียบไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ง่ายหยิบได้รวดเร็ว

ภาพจาก 1n73r 

14. ระบุไปเลยว่าขวดนี้ของใคร

          การเตรียมเครื่องดื่มให้เพื่อน ๆ นี่ค่อนข้างจำยากไปหน่อยนะ แต่ถ้าเขียนชื่อติดไว้ก็คงจะตลกน่าดู ลองเอาหนังยางสี ๆ มารัดแทนดีไหมว่าใครชอบดริ้งก์อะไรบ้าง คงจะเก๋ไม่น้อย

ภาพจาก apartmenttherapy 

15. ฝาหยุดอยู่กับที่แค่รัดไว้

          แม่บ้านมือใหม่ที่ชอบใช้กระทะไฟฟ้า ต้องเคยตกใจกับการที่ฝาหม้อกระโดดกระเด้งไปมาตอนอาหารกำลังเดือด หยุดปัญหานี้ไว้กับหนังยาง ด้วยการนำมารัดให้รั้งระหว่างหูกระทะทั้ง 2 ด้าน กับด้ามจับฝาหม้อ แล้วก็จะไม่กระเด็นแน่นอน

ภาพจาก diply

16. รัดหนังสือไม่ให้เสียหาย

          หนังสือเล่มโปรดหลายเล่มต้องมาพังยับเสียหาย เพราะโดนกระแทกหรือปกเปิดเองอยู่บ่อย ๆ แค่ใช้หนังยางก็กันกระแทกได้นะ ก็แค่เอามารัดรอบหนังสือไม่ให้มันอ้าออกหลังอ่านเสร็จ แล้วก็เก็บเข้าชั้น

ภาพจาก Andres Rodriguez 

17. นับแบงก์ นับเอกสาร ไม่ต้องพึ่งน้ำบ่อน้อย

          วันดีคืนดีอยากจะงัดเงินสดในบ้านออกมานั่งนับก็กลัวนับพลาด แนะนำให้เอาหนังยางมารัดไว้ที่นิ้วข้างที่ใช้นับ เพราะความเหนียวของหนังยางจะทำให้หยิบแบงก์ออกมาได้ที่ละใบ สามารถใช้กับเอกสารได้ด้วยเช่นกัน

ภาพจาก cbc 

18. ยึดแก้วไวน์กันแตก

          แก้วไวน์ราคาแพง ๆ ที่เข้าชุดกับไวน์หรูนั้น ถ้าทำแตกขึ้นมามันคงจะไม่เวิร์คเอาเลย หลังการล้างแก้วไวน์เสร็จให้หาหนังยางมารัดก้านแก้วไว้กับตะกร้าที่คว่ำจาน จะได้ไม่แตก

ภาพจาก cbc 

19. ตกแต่งเป็นศิลปะสวยงาม

          เมื่อการบ้านวิชาศิลปะของคุณหนู ๆ หมดไอเดียในการนำเสนอแล้ว ก็ลองใช้หนังยางมาสร้างศิลปะดูดีไหม ด้วยรูปทรงที่ยืดหยุ่นสามารถนำมาจับตกแต่งไอเดียได้หลากหลาย จะตัดก็ได้หรือแปะก็ดี

ภาพจาก awesomeinventions 

20. รัดตะขอกางเกงที่ติดไม่ถึง

          หากเดือนไหนหน้ามืดทานเยอะไปหน่อย จนพุงปลิ้นเล็กน้อยใส่กางเกงตัวเดิมก็ยัดแทบไม่ลง แขม่วพุงก็แทบขาดลมหายใจ ถ้าอย่างนั้นก็ใช้หนังยางรัดตะขอแทนสิ เท่านี้ก็ไม่ต้องทนอึดอัดหลังทานอาหารนอกบ้านเสร็จแล้ว

ภาพจาก dresses4maternity 

          ประโยชน์ของหนังยางมากมายขนาดนี้ เมื่อมีเหตุการณ์จำเป็นเกิดขึ้นก็อย่าลืมให้หนังยางมาเป็นตัวช่วยสำคัญ ในชีวิตประจำวันของคุณกันด้วยนะคะ



http://home.kapook.com/view112494.html

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

10 วิธีกำจัดแมลงสาบตัวเล็ก ให้หมดไปจากบ้านเราสักที !


  วิธีกำจัดแมลงสาบตัวเล็ก ด้วยวิธีไล่แมลงสาบเยอรมันสูตรเด็ด ที่จะทำให้ปัญหาแมลงสาบตัวเล็ก ๆ หมดไปจากบ้านของเราสักทีและไม่กล้ากลับมาทำรังในบ้านเราอีกเลย

          นอกจากเจ้าแมลงสาบไซส์ใหญ่ที่เราเห็นจนชินตาแล้ว ยังมีแมลงสาบตัวเล็ก ๆ ที่คอยสร้างปัญหาให้กับเราและพบได้บ่อยตามบ้านหรือคอนโด นั่นก็คือ แมลงสาบเยอรมัน หรือ เยอรมัน คอกโรช (German Cockroach) แมลงสาบตัวเล็ก สีน้ำตาลอ่อน ที่ชอบอาศัยอยู่ตามที่อับชื้นและเปียกแฉะ อย่างในห้องครัว ห้องเก็บของ และตู้เสื้อผ้า แม้จะมีดีกรีความสกปรกไม่มากเท่าแมลงสาบตัวใหญ่ แต่ แมลงสาบเยอรมัน แมลงสาบตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ก็สร้างความน่ารำคาญให้กับเราไม่น้อยเลย กระปุกดอทคอมเลยรวบรวมวิธีกำจัดแมลงสาบตัวเล็ก ๆ ไว้สำหรับไล่แมลงสาบเยอรมันมาบอกต่อแล้วค่ะ

1. วางยาในอาหาร

        หายาเบื่อแมลงสาบมาผสมในอาหารที่ใช้เป็นเหยื่อล่อ ใส่ไว้ในกล่องพลาสติกหรือถาดที่มีขอบกั้น แล้วนำไปวางใต้อ่างล้างจาน บริเวณถังขยะ ใต้ตู้เย็น บริเวณเตา และที่อับชื้นต่าง ๆ ในบ้าน แมลงสาบตัวเล็กก็จะพากันมากินเหยื่อจนหมด แล้วก็หมดลมหายใจทันที แต่บ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงต้องระวังอย่าให้เข้าใกล้กับดักโดยเด็ด ขาด

2. โรยผงกรดบอริก

        หาซื้อผงกรดบอริกมาโรยไว้รอบ ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าและบริเวณที่มีความอับชื้น เมื่อแมลงสาบตัวเล็กมาตกหลุมพราง และเห็นว่าแมลงสาบตัวเล็กตายสนิทแล้วควรรีบทำความสะอาดบริเวณนั้นทันที อย่าปล่อยให้ผงปลิวไปเกาะตามอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้านได้

3. กับดักเจล

        พับกระดาษเป็นรูปกรวย แล้วนำเจลกำจัดแมลงสาบป้ายไว้ด้านในกรวยให้ทั่ว จากนั้นนำไปวางไว้ตามจุดที่แมลงสาบ เมื่อมีหนึ่งในแมลงสาบหลงกลมาโดนเจลมันก็จะติดเชื้อและนำเชื้อกลับไปแพร่ต่อ ที่รังของตัวเอง

4. กวาดบ้านให้เกลี้ยง

        สาเหตุหลักที่ทำให้เจ้าแมลงสาบอยากบุกบ้านนั้นก็คงหนีไม่พ้นความสกปรก ดังนั้นลุกขึ้นมากวาดบ้านและกำจัดเศษขยะจากทุกซอกทุกมุมในบ้านให้หมด เมื่อแมลงสาบตัวเล็กไม่มีอาหาร พวกมันก็จะอพยพออกไปเอง 

5. ทำเหยื่อล่อด้วยดินเบา

        ดินเบา เป็นสารสกัดจากไดอะตอมไมท์ ที่มีซิลิกาจำนวนมาก ดังนั้นก่อนนำมาทำเหยื่อล่อกับดักแมลงสาบ ควรใส่ถุงมือและหน้ากากให้มิดชิด เพราะถ้าสูดดมเข้าไปก็จะเป็นอันตรายได้ โดยนำดินเบามาผสมรวมกับอาหาร แล้ววางไว้ในจุดที่พบแมลงสาบตัวเล็กบ่อย ๆ แต่อย่าวางไว้ใกล้บริเวณอาหารโดยเด็ดขาด เมื่อแมลงสาบเข้าใกล้ ดินเบาก็จะดูดไขมันและความชื้นที่ผิวด้านนอกของมัน ก็จะทำให้แมลงสาบขาดน้ำและตายในที่สุด

6. เบกกิ้งโซดา

        อีกหนึ่งกับดักล่อแมลงสาบที่ทำเองได้ง่าย ๆ จากในครัว เริ่มจากผสมน้ำตาลและเบกกิ้งโซดาในปริมาณที่เท่า ๆ กันลงในน้ำเปล่า จากนั้นเทใส่กระป๋องหรือขวดพลาสติก กลิ่นหวาน ๆ จะล่อให้แมลงสาบเข้ามากินน้ำ แล้วเบกกิ้งโซดาก็ทำให้ท้องของแมลงสาบอัดแน่นไปด้วยแก๊สและขาดใจตายในที่สุด

7. กับดักกากกาแฟ

        กับดักนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยนำกากกาแฟไปแช่ในน้ำเปล่าทิ้งไว้ นำกากกาแฟแช่น้ำใส่ลงไปในขวดโหล ม้วนกระดาษเป็นรูปกรวยแล้วเสียบไว้ที่ปากขวด ตั้งทิ้งไว้ 1 คืน เมื่อแมลงสาบได้กลิ่นก็จะปีนเข้าไปในขวดโหลและตายด้วยกลิ่นของคาเฟอีน

8. จัดห้องครัวให้เป็นระเบียบ

        หลังการทำครัวทุกครั้งควรทำความสะอาดให้เรียบร้อยทันที ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ โต๊ะอาหาร หรือแม้กระทั่งถังขยะ ส่วนอาหารที่เหลือจากการกินก็อย่าวางทิ้งไว้โดยเด็ดขาด ให้เก็บเข้าตู้กับข้าวหรือหาที่ปิดให้มิดชิด แล้วอย่าลืมนำขยะไปทิ้งนอกบ้านด้วย เพื่อไม่ให้แมลงสาบตัวเล็กมีอาหารไว้หล่อเลี้ยงชีวิต

9. สเปรย์น้ำมันสะเดา

        วิธีไล่แมลงสาบแบบธรรมชาติก็สามารถทำได้ โดยหาน้ำมันสะเดาสกัดสำเร็จรูปมาผสมกับน้ำเปล่า แล้วนำไปวางไว้ตามจุดที่แมลงสาบซ่องสุมอยู่ หรือเทใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดไปบริเวณที่มีแมลงสาบอยู่โดยตรงเลยก็ได้

10. สเปรย์น้ำยาปรับผ้านุ่ม

        จุดอ่อนของแมลงสาบตัวเล็ก ๆ ก็คือพวกมันไม่สามารถหายใจในที่ที่มีกลิ่นน้ำหอมได้ ฉะนั้นจึงสามารถกำจัดพวกมันได้ด้วยการผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 ฝากับน้ำเปล่า ½ ถ้วยตวงให้เข้ากัน แล้วเทใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นก็นำไปพ่นตามที่ที่แมลงสาบชอบเข้าไปอยู่

        ยินดีด้วยนะคะสำหรับคนที่ขยะแขยงแมลงสาบเข้าเส้น เพราะต่อไปนี้คุณจะมีสูตรดี ๆ ไว้กำจัดเจ้าแมลงสาบตัวเล็ก ๆ แล้ว จะได้ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาที่มาพร้อมเจ้าพวกนี้อีกต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก  Ehow, top10homeremedies, yala และ Phtnet

http://home.kapook.com/view152332.html
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/335799715944244607/

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2559

10 ไอเดียตกแต่งภายใน อัพลุคบ้านให้น่าอยู่แบบงบจำกัด

ไอเดียตกแต่งภายในบ้าน สวย ๆ ด้วยงบจำกัด ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินแพง ๆ เพื่อแลกกับบ้านสวย ๆ เพราะเรามีไอเดียตกแต่งภายใน ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านให้น่าอยู่มาฝากแล้ว

        ปัจจัยหลักก็ คืองบประมาณในการตกแต่งภายใน แต่สำหรับคนงบน้อยไม่ต้องกังวลไป เพราะการตกแต่งบ้านไม่จำเป็นต้องใช้งบเยอะอย่างที่คิด ซึ่งในวันนี้กระปุกดอทคอมก็มีไอเดียตกแต่งภายในสวย ๆ แบบประหยัดเงินมาฝากกันแล้ว แค่เปลี่ยนภายในจุดละนิดจุดละหน่อย ก็ทำให้ภายในบ้านสวยขึ้นได้จริง ๆ ถ้าไม่เชื่อก็ตามไปพิสูจน์กับการตกแต่งภายในทั้ง 10 ไอเดียนี้กันเลยค่ะ

1. เปลี่ยนฝาครอบสวิตซ์ไฟใหม่

        แม้สวิตซ์ไฟจะเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะเชื่อไหมว่าแค่นำฝาครอบสวิตซ์ไฟมาเปลี่ยนใหม่หรือนำวาชิเทปมาติด ก็จะช่วยตกแต่งภายในให้ดูดีขึ้นไปอีกขั้น

ภาพจาก washitapecrafts 

2. เปลี่ยนสีมือจับประตูใหม่

        ต่อให้ประตูจะดูเก่าและไม่น่าเปิดใช้งาน แต่ถ้าได้ลองนำมือจับ ลูกบิด หรือกลอนประตูแบบใหม่มาใส่แทนอันเก่า ก็จะทำให้ประตูดูดีขึ้นมาทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนประตูทั้งบาน



ภาพจาก thriftyartsygirl.blogspot


3. เปลี่ยนโทนสีหลอดไฟให้บ้านดูอลังการ

        แสงไฟถือว่าเป็นองค์ประกอบหลักของการตกแต่งบ้าน ดังนั้นหากจะปรับโฉมบ้านใหม่ด้วยงบประมาณที่จำกัด การเปลี่ยนโทนแสงไฟให้เหมาะกับการใช้งานห้องต่าง ๆ สามารถช่วยคุณได้ค่ะ

        - วอร์มไวท์ (Warm White) แสงไฟนวลสีส้ม เหมาะกับการตกแต่งจุดต่าง ๆ ในบ้านให้สวยงาม อย่างเช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก หรือห้องนอน

        - เดย์ไลท์ (Day Light) เป็นหลอดไฟโทนสีฟ้า มีความสว่างมาก เหมาะกับการใช้งานในมุมโต๊ะทำงาน มุมอ่านหนังสือ หรือมุมทำกิจกรรมที่ต้องใช้แสงมาก

        - คูลไวท์ (Cool White) แสงไฟโทนสีอบอุ่น เป็นส่วนผสมของหลอดไฟแบบวอร์มไวท์และเดย์ไลท์ สามารถใช้ได้กับทุกที่ในบ้าน


ภาพจาก LED Wholesale


4. เปลี่ยนตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ในบ้านใหม่

        เบื่อไหมกับบรรยากาศเดิม ๆ ภายในบ้าน มาออกแรงจัดบ้านและปรับเปลี่ยนตำแหน่งการวางเฟอร์นิเจอร์ใหม่กันดีกว่า เน้นจัดให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันและดูสะดวกสบาย ก็จะทำให้บ้านดูน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ เหมือนได้บ้านใหม่ในบ้านหลังเดิม


ภาพจาก sincerelysarad


5. แต่งผนังให้ไฉไลขึ้นกว่าเดิม

        สำหรับคนที่ไม่อยากเปลี่ยนรายละเอียดเล็ก ๆ ภายในบ้าน แนะนำให้เปลี่ยนแค่ผนังก็จะทำให้บ้านดูเปลี่ยนไปได้ค่ะ จะเพ้นท์เป็นลวดลาย ทาสีผนังใหม่ เปลี่ยนเป็นปูนเปลือย หรือจะติดวอลเปเปอร์ใหมเข้าไปก็ได้ค่ะ ปรับสวยผนังเพียงอย่างเดียวบ้านก็ได้



ภาพจาก CatCreature


6. เพิ่มงานศิลปะบนผนัง

        ถ้าไม่อยากออกแรงหรือลงทุนแปลงโฉมบ้านเยอะก็แค่นำผลงานศิลปะที่ชื่นชอบมาติด ตั้งภายในบ้านไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ภาพถ่าย รูปปั้น หรือแม้กระทั่งงานจักรสานก็ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศได้ค่ะ


http://img.kapook.com/u/2016/pree/24-5-59/q6_29.jpg


7. ติดตั้งกระจกขยายพื้นที่

        ด้วยขนาดของพื้นที่ภายในบ้านอาจจะทำให้เรารู้สึกอึดอัด ดังนั้นให้นำบานกระจกหรือของตกแต่งที่ทำจากกะจกมาตกแต่งในบ้านก็จะช่วยขยาย พื้นที่ให้ดูกว้างขึ้น แต่ถ้าอยากให้กว้างกว่านั้นอาจติดตั้งกระจก 2 บานเอาไว้ในห้องเดียวกัน โดยตั้งให้อยู่ฝั่งตรงข้ามกันมันจะช่วยให้ดูกว้างขึ้นกว่าเดิม


ภาพจาก itsalwaysautumn


8. เปลี่ยนพรมปรับลุคให้พื้นบ้าน

        พรมเป็นของแต่งบ้านอีกหนึ่งชิ้นที่ช่วยปรับลุคให้พื้นบ้านได้ ฉะนั้นลองออกค้นหาพรมที่มีลวดลายและสีสันแบบใหม่ มาไว้หน้าประตูทางเข้า ทางเดินห้องโถง หน้าประตูห้องครัว หรือหน้าประตูห้องน้ำดูนะคะ


ภาพจาก theglitterguide


9. เปลี่ยนบรรยากาศด้วยตกแต่งชิ้นเล็ก ๆ

        หากรู้สึกว่าบรรยากาศในบ้านมันดูโล่งและแข็งจนเกินไป แนะนำให้หาของตกแต่งชิ้นเล็ก ๆ อย่างเช่น เชิงเทียน ตุ๊กตารูปปั้น หรือกรอบรูป ในแบบที่บ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าของบ้านมาตกแต่ง เพียงเท่านี้บ้านของคุณก็จะดูมีรายละเอียดและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น


ภาพจาก shanty-2-chic 


10. ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน

        นอกจากจะช่วยอัพเดทบ้านให้น่าอยู่แล้ว ต้นไม้ยังช่วยเพื่อบรรยากาศที่สดชื่นในบ้านได้อีกด้วย และถ้าเป็นต้นไม้ที่ช่วยดูดซับสารพิษภายในอาคารด้วยก็จะยิ่งมีประโยชน์ต่อคน ในบ้านเข้าไปใหญ่ อย่างเช่น ลิ้นมังกร พลูด่าง เบญจมาศ และกุหลาบพันปี



ภาพจาก amberinteriordesign 

        เชื่อกันแล้วใช่ไหมคะ ต่อให้งบประมาณในการตกแต่งบ้านจะมีน้อยนิดหรือมีจำกัดมาแค่ไหน แต่เทคนิคดี ๆ เหล่านี้ก็จะช่วยให้คุณมีทางเลือกในการตกแต่งบ้านให้ดูดีขึ้นมาได้ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Budgeting และ Yourhouseandgarden

http://home.kapook.com/view150763.html

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

9 ทริคทุ่นแรงเครื่องซักผ้า ไม่ต้องเหนื่อยซักกับวิธีเดิม ๆ อีกต่อไป !


         รวมทริคเด็ด ๆ ในการซักผ้าด้วยเครื่องซัก ที่ช่วยทุ่นแรงทั้งคนซักและเครื่องซักผ้าได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องเหนื่อยกับวิธีเดิม ๆ อีกต่อไป
 

          แม้ที่บ้านจะมีเครื่องซักผ้าช่วยประหยัดแรง แต่ปัญหาคราบสกปรกและวิธีการแบบเดิม ๆ ก็ทำให้คุณแม่บ้านยังเหนื่อยอยู่ดี งั้นลองมาดูทริคดี ๆ ที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันในวันนี้หน่อยดีกว่า รับรองว่าจะช่วยทุ่นแรงทั้งคุณแม่บ้านและทำให้เครื่องซักผ้าได้เป็นอย่างดี ถ้าอยากให้เสื้อผ้าสะอาดสดใสแบบไม่ต้องเหนื่อย ก็ตามไปดูทริคดี ๆ ที่ว่านี้กันเลยค่ะ

1. ปั่นผ้าเช็ดตัวพร้อมเสื้อผ้าอื่น ๆ

          เมื่อไรที่ต้องการให้เสื้อผ้าแห้งเร็วทันใช้งาน แนะนำให้ใส่ผ้าเช็ดตัวลงไปปั่นแห้งพร้อมกับผ้าอื่น ๆ ในเครื่อง ผ้าเช็ดตัวจะช่วยดูดซับน้ำส่วนเกินออก ทำให้เสื้อผ้าแห้งเร็วขึ้นกว่าเดิม

2. กำจัดคราบออกบางส่วนก่อนนำไปซัก

          แม้เครื่องซักผ้าจะล้างคราบสกปรกออกได้ก็จริง แต่ก็อาจไม่หมดในครั้งเดียว หากอยากให้สะอาดจริง ๆ โดยไม่ต้องซักซ้ำ ก่อนส่งซักให้นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำเปล่าให้เป็นเนื้อครีมข้น ป้ายลงบนคราบเปื้อน ทิ้งไว้ให้แห้งปราณ 10 นาที และขูดเบกกิ้งโซดาดาออกก่อนนำไปซักในเครื่องซักผ้า คราบก็จะออกง่ายขึ้นกว่าเดิม

3. ปั่นแห้งเพื่อกำจัดเศษทิชชู

          แทบร้องไห้...เมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมกระดาษทิชชูไว้ในกระเป๋ากางเกงที่อยู่ใน เครื่องซักผ้า เพราะกว่าเครื่องจะทำความสะอาดเสร็จ ทิชชูก็ถูกปั่นเป็นเสี่ยง ๆ เศษกระดาษขาวก็กระจายติดเสื้อผ้าเต็มไปหมด ปัญหานี้แก้ได้โดยนำเสื้อผ้าลงไปปั่นแห้งอีกครั้ง เศษทิชชูก็จะถูกดูดไปกองรวมกันอยู่บริเวณที่กรองของเครื่อง ไม่ทิ้งขุยขาว ๆ ให้เห็นอีกต่อไป

4. ลูกเทนนิสช่วยปั่นผ้าแห้งไว ทันใช้งานในครั้งต่อไป

          นอกจากทริคผ้าเช็ดตัวที่ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วได้แล้วนั้น หากเรานำลูกเทนนิสมาใส่ในถุงเท้าจะคู่ใหม่หรือคู่เก่าที่สะอาด ๆ แล้วมัดปากให้เรียบร้อย ใส่ลงในเครื่องปั่นแห้งพร้อมกับเสื้อชิ้นอื่น ๆ ก็จะทำให้เสื้อผ้าแห้งเร็วขึ้นกว่าเดิมได้เหมือนกัน

5. เปิดอุณหภูมิน้ำให้เหมาะกับผ้า

          ก่อนจะซักผ้าต้องดูให้ดี ๆ ก่อนว่าชนิดของเสื้อผ้านั้น เหมาะสมกับน้ำอุณหภูมิแบบไหน เพราะถ้าซักผิดอาจจะทำให้เนื้อผ้าเสียหายแถมยังต้องตามแก้ไขกันนาน

          - ระบบน้ำเย็น : เหมาะซักเสื้อผ้าเนื้อละเอียด อย่างผ้าถักทอ ยีนส์ หรือผ้าที่สามารถหดตัวได้

          - ระบบน้ำอุ่น : เหมาะซักเสื้อผ้าสีขาวสว่าง เพราะจะช่วยกำจัดคราบออกได้เป็นอย่างดี

          - ระบบน้ำร้อน : เหมาะสำหรับซักเสื้อผ้าที่มีคราบหนักซักออกยาก 

6. ขัดเชือกรองเท้าไว้ที่ฝาประตู

          อยากให้รองเท้าแห้งไวทันหยิบใช้งาน แต่ก็กลัวว่าถ้านำไปปั่นในเครื่องปั่นแห้งแล้วจะทำให้เกิดเสียงดังหรืออาจ ส่งผลทำให้เครื่องพังเอาได้ ก็แค่ผูกปลายเชือกรองเท้าเอาไว้แล้วนำไปขัดกับฝาเครื่อง เพื่อยึดรองเท้าไม่ให้โดนเหวี่ยงไป-มาตอนเครื่องซักผ้ากำลังทำงาน

7. น้ำแข็งก้อนแก้ปัญหาผ้าย้วย

          บรรดาเสื้อที่ยืดย้วยผิดรูปทรงและแลดูไม่สดใสเหมือนตอนซื้อมาใหม่ ๆ นั้นแก้ไม่ยาก หลังซักทำความสะอาดตามปกติให้นำเสื้อผ้าลงไปปั่นแห้งพร้อม ๆ กับแผ่นอบแห้งและก้อนน้ำแข็งประมาณ 10 นาที เสื้อผ้าก็จะคืนรูปทรงเป็นปกติและดูสดใสพร้อมสวมใส่แล้วล่ะ

8. ใส่กระเป๋าในปลอกหมอน

          สาว ๆ ไม่ต้องลำบากซักกระเป๋าเป้เองให้ลำบากอีกต่อไป เพราะแค่เปิดช่องต่าง ๆ ในกระเป๋าทิ้งเอาไว้ แล้วนำไปใส่ในปลอกหมอนเก่า ๆ จากนั้นก็นำเข้าไปซักในเครื่องซักผ้า กระเป๋าก็จะสะอาดทุกซอกทุกมุม แถมไม่เสียรูปทรงอีกด้วยค่ะ

9. ลูกบอลอะลูมิเนียนฟอยล์ลดไฟฟ้าสถิต

          คราบสกปรกที่ยากจะซักออกนั่นไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณมีอะลูมิเนียมฟอยล์ติดบ้านไว้ โดยนำมาขยำเป็นลูกบอลเล็ก ๆ ประมาณ 4-5 ลูกแล้วใส่ลงไปซักพร้อมกับเสื้อผ้า เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดไฟฟ้าสถิตในผ้าลงได้ และทำให้คราบหนักหลุดออกอย่างง่ายดาย ช่วยรักษารูปทรงของเสื้อผ้าให้ยังคงเหมือนใหม่อยู่เสมอ

          ไหน ๆ เครื่องซักผ้าก็ช่วยทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็วแล้ว และจะเป็นอะไรไปหากเราติดสปีดให้เพิ่มขึ้นด้วยทริคดี ๆ เหล่านี้ ที่จะช่วยทุ่นแรงในการซักผ้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งสะอาดสดใสและใช้เวลาไม่นานแบบนี้ มีหรือที่เราจะไม่อยากบอกต่อ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก momalwaysfindsout, kidspot และ Lifehacker

http://home.kapook.com/view152517.html
เครดิตภาพ  ภาพจาก momalwaysfindsout